พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
- พ.ร.บ.ฉบับนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2550 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2550 เป็นต้นไป
ทำไมต้องมีพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์
- เพราะ คอมพิวเตอร์เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน มีการใช้คอมพิวเตอร์โดยมิชอบส่งผลเสียต่อบุคคลอื่นมีการใช้งานคอมพิวเตอร์ในการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือลามกอนาจาร จึงต้องมีมาตรการควบคุม
ความผิดที่เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ. ฉบับนี้
- การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ
- การเปิดเผยข้อมูลมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ
- การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ
- การดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
- การทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม ข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ
- การกระทำเพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
- การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์รบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของคนอื่นโดยปกติสุข
- การจำหน่ายชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด
- การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทำความผิดอื่น ผู้ให้บริการจงใจสนับสนุนหรือ ยินยอมให้มีการกระทำความผิด
- การตกแต่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นภาพของบุคคล
ผู้ให้บริการที่ระบุใน พ.ร.บ. นี้ คือบุคคลใด
ผู้ให้บริการตาม พ.ร.บ.นี้ สามารถจำแนก 4 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
- ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมไม่ว่าโดยระบบโทรศัพท์ระบบดาวเทียม ระบบวงจรเช่าหรือบริการสื่อสารไร้สาย
- ผู้ให้บริการการเข้าถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไม่ว่าโดยอินเทอร์เน็ต ทั้งผ่านสายและไร้สาย หรือในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่จัดตั้งขึ้นในเฉพาะองค์กรหรือหน่วยงาน
- ผู้ให้บริการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ หรือให้เช่าบริการโปรแกรมประยุกต์ (Host Service Provider)
- ผู้ให้บริการข้อมูลคอมพิวเตอร์ผ่าน application ต่างๆ ที่เรียกว่า content provider เช่นผู้ให้บริการ web board หรือ web service เป็นต้น
- ผู้ให้บริการทั้งที่เสียค่าบริการหรือไม่ก็ตาม ต้องเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็น เพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อนามสกุล เลขประจำตัวประชาชน USERNAME หรือ PIN CODE ไว้ ไม่น้อยกว่า 90 วัน นับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง
- ผู้ให้บริการไม่ได้เก็บข้อมูลผู้ใช้บริการไว้ถือว่าทำผิดและอาจถูกปรับสูงถึง 500,000 บาท
ผู้ใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต
ในฐานะบุคคลธรรมดาไม่ควรกระทำในสิ่งต่อไปนี้
เพราะอาจจะทำให้
“เกิดการกระทำความผิด" ตาม พรบ.นี้
1. ไม่ควรบอก password แก่ผู้อื่น
2. อย่าให้ผู้อื่นยืมใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อเข้าเน็ต
3. อย่าติดตั้งระบบเครือข่ายไร้สายในบ้านหรือที่ทำงานโดยไม่ใช้มาตรการการตรวจสอบผู้ใช้งานและการเข้ารหัสลับ
4. อย่าเข้าสู่ระบบด้วยuser ID และ
password ที่ไม่ใช่ของท่านเอง
5. อย่านำ user ID และ
passwordของผู้อื่นไปใช้งานหรือเผยแพร่
6. อย่าส่งต่อซึ่งภาพหรือข้อความ
หรือภาพเคลื่อนไหวที่ผิดกฎหมาย
7. อย่า กด remember me" หรือ
"remember password ที่เครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ และอย่า log-in
เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินที่เครื่องสาธารณะ
8. อย่าใช้ WiFi (Wireless LAN) ที่เปิดให้ใช้ฟรีโดยปราศจากการเข้ารหัสลับข้อมูล
ความผิดทางอาญาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
1. เจ้าของไม่ให้เข้าระบบคอมพิวเตอร์ของเขา
แล้วเราแอบเข้าไป
จำคุก 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ไปรู้วิธีการเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
แล้วไปยังไปบอกให้คนอื่นรู้ต่อ
จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.
แอบไปเจาะข้อมูลของผู้อื่นที่เก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์
จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน
40,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.
แอบไปดักจับข้อมูลผู้อื่นระหว่างการสื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน
60,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5.
ไปแก้ไขข้อมูลของในระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
จำคุกไม่เกิน 5 ปี
หรือปรับไม่เกิน100,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
6. ส่ง packet
หรือ message
หรือ virus
หรือ trojan
หรือ worm
หรืออะไรก็ตามเข้าไปก่อกวนจนระบบผู้อื่น
จำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน
100,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
7. ส่งข้อมูลหรืออีเมล์ ให้ผู้อื่นซ้ำๆ
โดยผู้รับไม่ได้ร้องขอ
ปรับไม่เกิน100,000บาท
8. ความผิดผิดข้อ 5. กับ ข้อ 6.
ทำให้บุคคลทั่วไปเกิดความเสียหาย
จำคุกไม่เกิน 10 ปีและปรับไม่เกิน200,000บาท
หากก่อความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ
เศรษฐกิจ และสังคม
จำคุกตั้งแต่ 3 - 5 ปี และปรับตั้งแต่
60,000 - 300,000บาท
และถ้าทำให้ใครตายก็จะเพิ่มโทษเป็น ..
จำคุกตั้งแต่ 10ปีถึง 20
9.
ถ้าเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์เพื่อทำให้ทำความผิดในหลายข้อข้างต้น
จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
10. สร้างภาพโป๊
เรื่องเท็จ ทำการปลอมแปลง กระทำการใดๆที่กระทบความมั่นคงก่อการ ร้าย และส่งต่อข้อมูลทั้งๆที่รู้ว่าผิด
ตามที่กล่าวมาข้างต้น …
จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
11. เจ้าของเว็บ สนับสนุน / ยินยอมให้เกิดข้อ
10.
จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน
100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
12.
เอารูปผู้อื่นมาตัดต่อแล้วเอาไปเผยแพร่ในระบบคอมพิวเตอร์
จำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น